ความเป็นปราชญ์ของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เกิดจากทรงใฝ่แสวงหาความรู้ตลอดเวลา ทรงสนพระทัยศึกษาหาความรู้หลากหลายด้าน โดยมีพื้นฐานมาจากพระนิสัยส่วนพระองค์ที่โปรดการอ่านหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ ทรงรอบรู้ในศิลปวิทยาการมากมาย โดยเฉพาะในด้านวรรณคดี ทรงรอบรู้ทั้งวรรณคดีของชาติไทย และวรรณคดีของชาติอื่นๆ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี ทรงได้รับการปลูกฝังจากสมเด็จพระ นางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ให้ทรงอ่านวรรณคดีไทยเรื่องสำคัญๆ มาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ไม่ว่าจะเป็น พระอภัยมณี, รามเกียรติ์ และอิเหนา ครั้นเมื่อเจริญพระชนมายุขึ้น จากความสนพระราชหฤทัยในวัยเยาว์ ได้ขยายวงกว้างไปสู่วรรณคดีไทยทุกประเภทและทุกยุคทุกสมัย ทรงอ่านและทรงศึกษาวรรณคดีไทยอย่างแตกฉานลึกซึ้งในเชิงวิจักษณ์ และวิจารณ์ ในฐานะที่วรรณคดีเป็นทั้งศาสตร์ คือความรู้ และศิลป์ คือความงาม
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารี ทรงได้รับการปลูกฝังจากสมเด็จพระ นางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ให้ทรงอ่านวรรณคดีไทยเรื่องสำคัญๆ มาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ ไม่ว่าจะเป็น พระอภัยมณี, รามเกียรติ์ และอิเหนา ครั้นเมื่อเจริญพระชนมายุขึ้น จากความสนพระราชหฤทัยในวัยเยาว์ ได้ขยายวงกว้างไปสู่วรรณคดีไทยทุกประเภทและทุกยุคทุกสมัย ทรงอ่านและทรงศึกษาวรรณคดีไทยอย่างแตกฉานลึกซึ้งในเชิงวิจักษณ์ และวิจารณ์ ในฐานะที่วรรณคดีเป็นทั้งศาสตร์ คือความรู้ และศิลป์ คือความงาม

นอกจากจะทรงศึกษาวรรณคดีไทยอย่างลุ่มลึกแล้ว สมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังทรงเป็นนักประพันธ์และกวีที่มีบทพระราชนิพนธ์มากมายกว่า 135 เรื่อง ทั้งสารคดีและบันเทิงคดี ร้อยแก้วและร้อยกรอง โดยจากบทพระราชนิพนธ์สั้นๆขณะที่ยังทรงพระเยาว์ ได้พัฒนามาเป็นบทพระราชนิพนธ์เรื่องยาวที่หลากหลายทั้งด้านเนื้อหาและรูปแบบ ซึ่งล้วนแล้วแต่ทรงคุณค่าเป็นที่ประจักษ์ในแวดวงวรรณกรรม
บทพระราชนิพนธ์ของสมเด็จ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช กุมารี มีทั้งรูปแบบของเรียงความ บทความ งานวิจัย และสารคดีเรื่องยาว โดยสารคดีโดดเด่นเป็นที่รู้จักแพร่หลายที่สุดคือ สารคดีท่องเที่ยว เมื่อเสด็จพระราชดำเนินประพาสไปในโลกกว้าง ได้ทรงนำพระประสบการณ์ต่างๆมาถ่ายทอดไว้ในบทพระราชนิพนธ์ ซึ่งเปี่ยมด้วยสาระ ความรู้ แง่คิด และมุมมองลึกซึ้ง ด้วยศิลปะการประพันธ์ ที่งดงาม กระชับชัดเจน สละสลวยมีชีวิตชีวา และเต็มไปด้วยพระอารมณ์ขัน ขณะเดียวกัน ก็ทรงเป็นกวีที่เปี่ยมด้วยพระปรีชาสามารถ ได้ทรงพระราชนิพนธ์บทกวีนิพนธ์ต่างๆไว้มากมายนับไม่ถ้วน โดยบทกวีนิพนธ์ส่วนใหญ่สะท้อนความเป็นนักอนุรักษ์และนักพัฒนาอย่างชัดเจน

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ยังทรงพระราชนิพนธ์บันเทิงคดีไว้เป็นจำนวนมาก มีทั้งเรื่องที่ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเอง และเรื่องที่ทรงแปลมาจากต่างประเทศ โดยบทพระราชนิพนธ์ที่นิยมอ่านกันอย่างแพร่หลายคือ วรรณกรรม
สำหรับเด็กและเยาวชน ซึ่งทรงใช้พระนามแฝงว่า “แว่นแก้ว” เน้นนำเสนอความสนุกสนานเพลิดเพลิน แฝงสาระแง่คิด ทรงใช้ภาษาเรียบง่ายแต่จับใจ ชวนติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ โดยเฉพาะวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง “แก้วจอมแก่น” ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นจากประสบการณ์จริงเมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์ นอกเหนือจากพระปรีชาสามารถในฐานะผู้ศึกษาค้นคว้าและสร้างสรรค์วรรณคดีแล้ว ยังทรงมีบทบาทในการอนุรักษ์และเผยแพร่วรรณคดีไทยไปสู่ประชาชนทุกเพศทุกวัยด้วย

เป็นที่ทราบกันดีว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรักใคร่และผูกพัน กับสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นอย่างมาก โดยเสด็จฯเยือนแดนมังกรมาแล้วกว่า 30 ครั้ง และยังทรงศึกษาภาษาจีนอย่างลึกซึ้งถึงราก ด้วยความสนพระทัยในศิลปวัฒนธรรมจีน จึงทรงหยิบนวนิยายเรื่องดังของจีนมาแปลเป็นภาษาไทยแล้วหลายเรื่อง โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า ในบทพระราชนิพนธ์แปลจากนวนิยายจีนเกือบทุกเรื่อง มักจะมีตัวละครเอกเป็นผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็น “หมู่บ้านเล็ก

ตระกูลเป้า” บทพระราชนิพนธ์แปลจากนวนิยายจีนของ “หวังอันอี้” สะท้อนถึงความรักอันบริสุทธิ์ยิ่งใหญ่ของผู้เป็นแม่ และความบริสุทธิ์กล้าหาญของเด็กน้อยผู้กลายเป็นวีรชนของหมู่บ้านชนบทแห่งหนึ่ง ในช่วงต้นทศวรรษ 1960 ซึ่งอยู่ภายใต้ระบบคอมมูน, “ผีเสื้อ” สะท้อนให้เห็นถึงสภาพของสังคมจีนในยุคปฏิวัติวัฒนธรรม ที่เต็มไปด้วยความสับสนและขัดแย้งทางอุดมการณ์ทางการเมือง, “หยกใสร่ายคำ” บทพระราชนิพนธ์แปลจากกวีนิพนธ์จีนโบราณ ถ่ายทอดความรู้สึก อารมณ์ อุดมการณ์ และปัญหาของยุคสมัย และ “เมฆเหิน น้ำไหล” สะท้อนภาพความเปลี่ยนแปลงของสังคมจีน อันเป็นผลมาจากนโยบายสี่ทันสมัย

ล่าสุด สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี ยังได้แสดงถึงพระปรีชาสามารถด้านอักษรศาสตร์ให้เป็นที่ประจักษ์อีกครั้ง โดยทรงหยิบนวนิยายเรื่องดังของสาธารณรัฐประชาชนจีน “นารีนครา” ประพันธ์โดย “ฉือลี่” นักเขียนวรรณกรรมร่วมสมัยชื่อดังแห่งยุค มาแปลเป็นฉบับภาษาไทยครั้งแรก เพื่อสะท้อนภาพสังคมและความงดงามของความเป็นหญิง ในบทบาทหน้าที่ยิ่งใหญ่ของความเป็นแม่, ภรรยา และความเป็นเพื่อนแท้ ถ่ายทอดวีรกรรมอันเกิดจากดวงใจแกร่งดั่งเหล็กกล้าของสตรีชาวจีน ผ่านตัวละครสำคัญ 3 ตัว ซึ่งเป็นตัวแทนของหญิงรุ่นเก่า, รุ่นกลางและรุ่นใหม่ นอกจากนี้ ยังเพิ่มสีสันด้วยภาพของเมนูอาหารฝีมือเชฟชื่อดังจากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งบินตรงมาเมืองไทยตามคำเชิญของเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศ ไทย เพื่อปรุงอาหารถวายสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทอดพระเนตรโดยเฉพาะ สำหรับ “ฉือลี่” ถือเป็นนักเขียนหญิงชื่อดังยุคใหม่ของจีน ซึ่งถนัดถ่ายทอดเรื่องราววิถีชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงตามกระแสการปฏิรูปพัฒนาประเทศจีนให้ทันสมัยขึ้น

ความโดดเด่นและคุณค่าแห่งบทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม บรมราชกุมารี มิได้อยู่เพียงที่ความรู้ ความคิด และความบันเทิงที่ผู้อ่านจะได้รับ แต่ยังอยู่ที่พระเจตนารมณ์อันลึกซึ้งที่ทรงมุ่งสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันของปวงชน ทั้งระหว่างชนในชาติเดียวกัน และระหว่างชนต่างชาติ ต่างศาสนา และต่างเผ่าพันธุ์ ถือเป็นการขยายพรมแดนแห่งความรู้และความคิดอันเป็นประโยชน์อย่างอเนกอนันต์.

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น